ลงหมึกคอมมิกซูเปอร์ฮีโรใน Clip Studio Paint

 

 

ล้อมวงกันเข้ามาเลยเด็กๆ ลุงจะมาเล่าเรื่องเก่าๆ ให้ฟัง ตอนที่ยังเด็ก ผมอยากวาดคอมมิกซูเปอร์ฮีโร ตอนนั้นผมก็คิดว่ามีแค่โปรแกรมเดียวที่จำลองปากกาจริงที่ผมชอบใช้ลงหมึกได้ แล้วผมก็ได้ฟังยินเกี่ยวกับโปรแกรมเล็กๆ ที่เรียกว่า Manga Studio “แต่เดี๋ยวก่อน” ผมคิด “นี่คงไม่เหมาะกับฉันหรอก!” ผมอยากสร้างคอมมิกซูเปอร์ฮีโร คอมมิกอเมริกันแบบคลาสสิกที่ความดีต่อกรกับความชั่ว นักกรามในชุดรัดรูปอะไรพวกนั้น! ไม่ใช่มังงะ!

 

แต่ก็นะ ผมคิดผิด Manga Studio หรือที่ตอนนี้รู้จักในชื่อ Clip Studio Paint จริงๆ แล้วถูกออกแบบมาให้รองรับได้หลากหลายสไตล์ สไตล์ควรจะมาจากศิลปิน ไม่ใช่เครื่องมือ และ Clip Studio Paint ก็มีเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมมากมายที่ใช้วาดคอมมิกได้

 

ในบทความนี้ ผมจะขอพูดถึงเครื่องมือสามอย่างที่นักวาดคอมมิกอเมริกันส่วนใหญ่ใช้ลงหมึกแบบดั้งเดิมในคอมมิก และวิธีที่ทุกคนสามารถใช้ Clip Studio Paint เพื่อเลียนแบบเครื่องมือเหล่านั้นในแบบดิจิทัล

 

เครื่องมือที่ใช้ในงาน

 

 

แน่นอนว่าจะใช้เครื่องมืออะไรก็ตามที่ลงหมึกในกระดาษได้ แต่มีเครื่องมืออยู่สามประเภท (ในประสบการณ์ของผม) ที่นักวาดหนังสือคอมมิกอเมริกันใช้ลงหมึกภาพคอมมิกซูเปอร์ฮีโร่

 

อย่างแรก ต้องมีแปรง นักวาดคอมมิกส่วนมากที่ผมรู้จักจะใช้แปรงขนเซเบิลจากโคลินสกี้ ขนาด 1, 2 หรือ 3 โคลินสกี้เป็นพังพอนชนิดหนึ่งซึ่งมีขนที่ละเอียดมาก และเมื่อทำเป็นแปรง จะให้ปลายแปรงที่คมละเอียดสุดๆ แปรงพวกนี้จึงสร้างเส้นบางเฉียบได้ และยังเพิ่มขนาดเป็นเส้นที่หนามากได้เหมือนกัน โดยเฉพาะถ้าใช้แปรงขนาด 2 หรือ 3

 

แปรง มีขอบเขตการใช้งานที่กว้างที่สุดในบรรดาเครื่องมือทั้งหมดที่เราจะพูดถึงในวันนี้ และถึงแม้ว่าการใช้โปรแกรมที่รวมไว้ทุกฟังก์ชันจะสะดวก แต่ก็ยังควบคุมและสร้างน้ำหนักเส้นที่สม่ำเสมอได้ยาก

 

อย่างที่สอง เราต้องมีปากกาคอแร้ง ส่วนมาก ผมจะเห็นนักวาดคอมมิกอเมริกันใช้ปากกาคอแร้งแบบ ปากกา G-Pen ปากกา G-Pen มีด้ามจุ่มปากกาและหัวปากกาโลหะที่เปลี่ยนได้ ซึ่งต้องจุ่มหมึกก่อนใช้งาน หัวปากกามีปลายแยกกัน เมื่อออกแรงกด รอยแแยกจะกว้างขึ้น ทำให้หมึกไหลลงบนกระดาษมากขึ้น เพราะหัวปากกาเป็นโลหะ แรงกดจึงไม่ทำให้เส้นขอบกว้างมากเท่าแปรง แต่ก็ยังสามารถวาดเส้นที่มีขนาดหลากหลายได้ และหัวปากกาที่ยังไม่ได้ผ่านการใช้งานหนัก ก็วาดเส้นบางได้อย่างแม่นยำเหมือนกัน

 

และสุดท้ายคือ ปากกามัลติไลน์เนอร์ ที่นักวาดคอมมิกหลายคนใช้วาดคอมมิกซูเปอร์ฮีโร ปากกาพวกนี้มีต้นแบบมาจากปากกามัลติไลน์เนอร์โลหะที่ใช้ตลับหมึกรุ่นเก่า ซึ่งปลายโลหะจะถูกดันเข้าไปในช่องปากกา ทำให้หมึกไหลออกมาในอัตราสม่ำเสมอ ซึ่งในทางทฤษฎีจะช่วยให้วาดเส้นได้อย่างคงที่และต่อเนื่อง

 

และอย่างที่รู้กันว่าปากกาพวกนี้ใช้งานค่อนข้างยาก จึงได้มีปากกามัลติไลน์เนอร์หลายรุ่นที่เป็นหัวเฟลท์ซึ่งสร้างเส้นได้ค่อนข้างสม่ำเสมอโดยไม่ต้องกังวลเรื่องหมึกไหลออกมามากเกินไปหรือกระเซ็น โดยจะมีขนาดที่ตายตัว อย่าง 0.1, 0.3 และ 0.5 เป็นต้น ตัวเลขพวกนี้หมายถึงเส้นปากกาในขนาดมิลลิเมตร แม้ว่าปากกาจะมีความแตกต่างกันเล็กน้อย แต่ก็ไม่มากเท่ากับปากกา G-Pen หรือแปรง

 

เครื่องมือพวกนี้ใช้งานได้เยี่ยมไปเลย… แต่พอถึงตอนที่อยากแก้งานเท่านั้นล่ะ โชคดีที่ Clip Studio Paint สามารถเลียนแบบเครื่องมือพวกนี้ได้!

 

 

 

 

ลงหมึกด้วยแปรง

 

 

Clip Studio Paint มีแปรงหมึกอินเดียหลายแบบที่เหมาะสำหรับการวาดคอมมิกซูเปอร์ฮีโรติดตั้งอยู่ในโปรแกรมเลย โดยส่วนตัว ผมชอบหมึกอินเดียแบบเรียบ (India Ink Smooth) เพราะมีเส้นที่คมชัดและเท็กซ์เจอร์ที่ละเอียด

 

ผมขอแนะนำให้ใช้การตั้งค่าเริ่มต้นของเครื่องมือเหล่านี้กับงานบางชิ้นก่อนที่จะปรับแต่งค่าต่างๆ เพราะบางครั้งการรู้ว่าเครื่องมือทำงานอย่างไรจะช่วยให้รู้ว่าต้องปรับอะไรจริงๆ

 

เมื่อคุ้นกับเครื่องมือมากขึ้นแล้ว ให้ลองกดไอคอนเครื่องมือในพาเล็ตเครื่องมือรองและเลือกเครื่องมือที่ต้องการแก้ไข

 

 

ในหน้าต่างรายละเอียดเครื่องมือรอง จะเห็นคุณสมบัติต่างๆ ที่ใช้ปรับแต่งแปรง เช่น ขนาดแปรง โค้ง ความทึบ และการตั้งค่าที่ช่วยแก้ไขเส้น เช่น จุดเริ่มและจุดสิ้นสุด

 

 

การตั้งค่าความโค้งแปรงแบบนี้จะช่วยให้ได้เส้นบางที่ใช้แรงกดน้อย และทำให้หนาขึ้นได้ด้วยการลงน้ำหนักแรงกด! ทดลองใช้เครื่องมือนี้ และลองปรับแต่งให้เหมาะกับตัวเอง

 

ลงหมึกด้วยปากกา G-pen

 

ถ้าอยากได้เส้นปากกาแบบ G-Pen ให้ดูที่ส่วน ปากกา G-pen ในเครื่องมือรองของปากกาได้เลย เครื่องมือนี้จะให้เส้นที่สวยและบางถ้าใช้แรงกดเบาๆ แต่ก็ยังวาดให้หนาขึ้นได้เมื่อกดแรงขึ้น แต่จะไม่ขยายมากเท่ากับแปรง แต่ก็คงต้องการแบบนั้น เพราะปากกา G-Pen ของจริงก็เป็นแบบนี้!

 

 

เครื่องมือนี้ใช้หัวกลมเพื่อสร้างเส้นที่เรียบนิ่งกว่า ตรงข้ามกับแปรงหมึกอินเดียแบบเรียบที่หัวปากกาจะมีเท็กซ์เจอร์เล็กน้อย ซึ่งจะให้เส้นที่คมและแม่นยำมาก แต่อาจดูไม่เป็นธรรมชาติถ้าขยายขนาดเส้นมากเกินไป

 

ดังนั้นเมื่อใช้ปากกา G-Pen ควรตั้งค่าขนาดให้ไม่ใหญ่เกินไป ค่ามาตรฐานคือ 5 พิกเซลซึ่งอาจจะเล็กไปหน่อย (เหมือนหัวปากกา Maru มากกว่าหัวปากกา G-Pen) แต่ไม่ควรตั้งเกิน 12 หรือ 15 พิกเซลในเฟรมผ้าใบ 600 dpi ในตัวอย่างด้านล่าง ผมใช้ขนาด 8 พิกเซล และก็ได้เส้นที่ดูหลากหลายดี

 

ลงหมึกด้วยมัลติไลน์เนอร์

 

 

สุดท้ายนี้เรามาพูดถึงมัลติไลน์เนอร์ใน Clip Studio Paint กัน ปากกาพวกนี้ไม่ได้มีอยู่ในโปรแกรมตั้งแต่แรก แต่ผมสร้างขึ้นเอง เพราะผมใช้ปากกาประเภทนี้ลงหมึกค่อนข้างบ่อยในชีวิตจริง สามารถดาวน์โหลดได้บนเว็บไซต์ Gumroad ของผมที่นี่

 

เครื่องมือพวกนี้ออกแบบมาเพื่อจำลองความกว้างที่สม่ำเสมอของเส้นมัลติไลน์เนอร์ในชีวิตจริง ผมสแกนเท็กเจอร์ของหัวปากกาที่วาดจากเครื่องมือจริง และพยายามตั้งขนาดให้ตรงกับขนาดเส้นจริงในกระดาษ ดังนั้น 0.1 จะให้เส้นที่บางกว่า 0.3 อย่างชัดเจน แต่ถ้าดูดีๆ จะเห็นว่าเส้นขนาด 0.3 วาดให้บางได้ไม่เท่ากับแปรง หรือ ปากกา G-Pen แม้ว่าจะกดเบาๆ

 

นี่เป็นความแตกต่างหลักระหว่างมัลติไลน์เนอร์ แปรง และปากกา G-Pen: เมื่อใช้มัลติไลน์เนอร์ จะเลือกขนาดที่เหมาะกับเส้นที่ต้องการได้ แต่กับแปรงหรือปากกา G-Pen จะต้องใช้แรงกดเพื่อให้ได้เส้นที่มีขนาดสม่ำเสมอ

 

 

แต่ทั้งหมดทั้งมวลแล้ว ไม่ได้มีอะไรดีกว่ากัน! สิ่งสำคัญคือการเลือกใช้เครื่องมือให้เหมาะกับภาพที่ต้องการ และเวลาที่ลงหมึกให้งานคอมมิกซูเปอร์ฮีโรในสไตล์แบบอเมริกันคลาสสิก ผมจะพยายามคำนึงถึงจุดสำคัญสองสามข้อ

 

เคล็ดลับสำหรับการเลียนแบบสไตล์อเมริกัน

 

เคล็ดลับ #1: คำนึงถึงต้นทางของแสงเสมอ

หลายคนอาจจะคิดว่าการลงหมึกก็เหมือนกับการวาดดินสอที่ก็แค่วาดรูปร่างอย่างที่มันเป็น แต่การลงหมึกให้มีชีวิตจะต่างออกไปตรงที่วาดให้ความหนาของเส้นสัมพันธ์กับปริมาณของแสงที่ตกกระทบในแต่ละด้านของตัวแบบ

 

 

ซึ่งจะเห็นได้จากตัวอย่างด้านบน ที่ด้านซ้าย มือมีการลงหมึกอย่างเท่าๆ กัน ดังนั้นจึงมองไม่ออกว่าแสงมาจากทางไหน ส่วนมือด้านขวา ลงหมึกโดยคำนึงถึงแสง จะบอกได้จากเส้นบางที่หันเข้าหาแสงและเส้นหนาที่หันออกจากแสง ว่ามีต้นทางของแสงมาจากไหน

 

เคล็ดลับ #2:ใช้จุดดำให้มากขึ้น

แบบเดียวกัน เวลาที่ลงหมึกในงานคอมมิกซูเปอร์ฮีโร พยายามเพิ่มการใช้จุดดำในงานที่เสร็จ จุดดำนั้นอาจจะดูน่ากลัวในตอนแรก เพราะอาจจะคิดว่า “ฉันใช้เวลาตั้งนานเพื่อคิดว่าจะวางอะไรตรงไหน แล้วจะให้ฉันทาทับงั้นเหรอ!?” แต่ถ้าใช้ดีๆ พื้นที่จุดดำพวกนี้จะช่วยเพิ่มมิติและพลังให้กับงานหมึกได้อย่างยอดเยี่ยม

 

 

จุดดำจะช่วยเพิ่มค่าความมืดหรือสว่างให้กับวัตถุในขั้นตอนการลงหมึก ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับสีในขั้นตอนถัดไป ถ้าผมของตัวละครเป็นสีน้ำตาลเข้ม อย่าใส่เส้นขอบแล้วลงสีน้ำตาลเข้มทับ! เพราะสีจะออกมาใกล้เคียงกับหมึกจนดูมืดและขุ่น ให้ใช้จุดดำเล็กน้อยที่ผมแทนเพื่อแสดงค่าแสง (และทิศทางของแสง) ทำให้ในขั้นตอนการลงสี สามารถใช้สีที่อ่อนขึ้นเพื่อเสริมภาพหมึกได้

 

ถ้ากลัวว่าจะทำให้ภาพเสียหาย ก็สามารถสร้างจุดดำบนเลเยอร์แยกจากเลเยอร์หมึก! ด้วยวิธีนี้จะสามารถทดสอบไอเดียได้โดยไม่ส่งผลกระทบกับงานเดิม บางครั้งการเพิ่มจุดดำอาจจะดีกว่าก็ได้ เหมือนกับที่คนในสมัยก่อนพูดถึงเรื่องการลงหมึกไว้ว่า “ถ้าไม่แน่ใจ ให้ลงสีดำ!”

 

เคล็ดลับ #3: การทำเฟเธอร์เข้าไปในจุดดำ ไม่ใช่ออกจากจุดดำ

ผมได้เคล็ดลับนี้จากนักลงหมึกมือโปรที่งานประชุมการ์ตูนนิวยอร์ก และมันก็ปิ๊งขึ้นเหมือนกับหลอดไฟติดในหัวเลย!

 

การทำเฟเธอร์ คือกระบวนการลงหมึกที่ใช้กลุ่มของเส้นจากบางไปหนา ซึ่งจากระยะไกลจะดูเหมือนโทนสีมากกว่าพื้นที่สีดำหรือขาวทั้งหมด เทคนิคนี้ใช้บ่อยเพื่อแสดงการไล่สี เพราะหมึกจริงๆ แล้วมีแค่สีดำหรือขาวเท่านั้น

 

 

เวลาที่ใช้เทคนิคนี้ ควรเริ่มทำเฟเธอร์จากจุดที่อ่อนที่สุดแล้วลงหมึกไปยังส่วนที่เข้มที่สุด หลายครั้งที่นักลงหมึกมือใหม่ (รวมถึงผมด้วย!) จะเริ่มที่ส่วนที่เข้มที่สุด แล้วสะบัดปากกาออกเพื่อให้ได้เส้นที่ดูมีพลัง ถึงจะดูมีพลัง แต่จะทำให้จุดสิ้นสุดของเส้นเฟเธอร์ไม่สม่ำเสมอ

 

แทนที่จะทำแบบนั้น ลองเริ่มจากจุดที่อ่อนที่สุดแล้วทำย้อนกลับไปในพื้นที่จุดดำ วิธีนี้จะทำให้เส้นมีการไล่สีที่สม่ำเสมอและดูสะอาดเป็นมืออาชีพมากขึ้น

 

เคล็ดลับ #4: รักษาเท็กซ์เจอร์ของแปรงลงหมึกให้สม่ำเสมอด้วยแผงสีโปร่งใส

ส่วนดีที่สุดของการทำงานแบบดิจิทัลคือปุ่มย้อนกลับ แต่บางครั้งก็แค่อยากลบส่วนที่ไม่ต้องการออกโดยไม่ต้องย้อนกลับใหม่หลายขั้นตอน บางครั้งการใช้ยางลบก็เป็นตัวเลือกที่ดี แต่ยางลบหลายชนิดไม่ได้มีเท็กซ์เจอร์เหมือนเครื่องมือลงหมึก ทำให้งานออกมาไม่เรียบร้อยเท่าที่ควร

 

เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้ ผมมักใช้แผงสีโปร่งใสกับเครื่องมือลงหมึกของผม วิธีนี้จะลบแค่ส่วนสีดำออกจากภาพวาด แต่ยังมีขอบเส้นที่ให้ความรู้สึกเหมือนหมึก

 

 

ในภาพทางซ้าย จะเห็นว่าผมเลือกแผงสีโปร่งใสใต้แผงสีพื้นหน้าและพื้นหลังซึ่งเป็นสีดำและขาว

 

ในจุดที่ด้านซ้าย ผมตัดเข้าไปด้วยแปรงหมึกอินเดียแบบเรียบ ทำให้เส้นหมึกยังคงเท็กซ์เจอร์ของแปรง ที่ด้านขวา ผมใช้ยางลบทั้งแบบแข็งและอ่อน ซึ่งไม่มีเท็กซ์เจอร์เหมือนเครื่องมือหมึกและดูไม่ค่อยเข้ากัน ทำให้ดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ เห็นความแตกต่างไหม?

 

สรุปโดยรวม

บทความนี้จะขาดวิดีโอตัวอย่างไปได้ยังไง?

 

ให้แปรงของผมได้แสดงฝีมือ (หวังว่าหมึกจะไม่เลอะไปทั่ว) และดูว่าเครื่องมือพวกนี้ทำอะไรได้บ้าง เมื่อเทียบกับภาพเดียวกันที่วาดด้วยดินสอ ถ้าอยากเห็นตัวอย่างแบบไทม์แลปส์ สามารถดูในวิดีโอที่เกี่ยวข้องบน YouTube ได้เลย

 

 

 

นี่คือซูเปอร์ฮีโรแมน แค่ซูเปอร์ฮีโรชายในชุดรัดรูปคลาสสิกที่พร้อมสำหรับการลงหมึกทันที ผมวาดลงบนเฟรมผ้าใบ 10.25” x 8.25” ด้วยขนาด 10” x 8 ที่ 600 DPI

 

สำหรับดินสอ ผมใช้เลเยอร์เทา และ Perfect Pencil ของผม แล้วผมก็ตั้งเลเยอร์ดินสอเป็นสีฟ้าโดยใช้แผงคุณสมบัติเลเยอร์ และลดความทึบไปที่ 30% เพื่อให้สามารถเห็นการลงหมึกได้ดีขึ้น

 

 

นี่คือตัวอย่างการลงหมึกแรก! โดยใช้แปรงหมึกอินเดียแบบเรียบ (India Ink Smooth Brush) อย่างที่เห็น แปรงนี้มีน้ำหนักเส้นหลายแบบที่เหมาะกับพื้นที่บางจุด แต่ก็ควบคุมได้ยากกว่าในพื้นที่ที่มีรายละเอียดเล็กๆ แปรงนี้ใช้วาดเส้นกว้างได้ดี และไล่สีออกมาสวยในด้านที่หันเข้าหาแสง

 

พูดถึงเรื่องแสง อาจจะเห็นแล้วว่าผมพยายามกำหนดต้นทางของแสงไว้ทางมุมขวาบนของภาพวาด เพราะเส้นทางด้านขวาของใบหน้าและแขนของเขาจะบางกว่าเส้นทางด้านซ้ายของใบหน้าและใต้แขนของเขาอย่างเห็นได้ชัด

 

 

ในอีกด้านหนึ่ง ปากกา G-Pen มีเส้นที่คมชัด การเฟเธอร์ตรงนี้จะเล็กและละเอียดกว่าแปรงมาก จะเห็นวิธีการใส่จุดดำที่ด้านซ้ายของผม เพื่อให้เห็นว่ามันมืด และเปิดพื้นที่ด้านซ้ายสุดเพื่อเพิ่มแสงขอบ

 

 

ในการใช้มัลติไลน์เนอร์ ผมพยายามใช้เครื่องมือที่แตกต่างกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ เริ่มจากการวาดเส้นรอบตัวละครทั้งหมดด้วยปากกา 0.3 แล้วเปลี่ยนเป็น 0.1 เพื่อลงรายละเอียด ผมพยายามเน้นไปที่การขีดเส้นเพื่อสร้างเงาลึกบริเวณใต้รักแร้และที่ด้านหนึ่งของใบหน้า

 

นอกจากนี้ก็ทำให้ส่วนสีดำในชุดมืดสนิทเพื่อให้มีความโดดเด่นมากขึ้น แทนการลงแสงสะท้อน

 

 

แต่สุดท้าย เครื่องมือเหล่านี้ก็เป็นแค่เครื่องมือ! สามารถใช้งานเครื่องมือพวกนี้ร่วมกันได้เลย อย่างที่ผมทำในเวอร์ชันสุดท้ายนี้ ผมชอบที่แปรงหมึกอินเดียแบบเรียบวาดเส้นกวาดได้ดี ผมจึงใช้วาดเส้นของของร่างกาย ปากกา G-Pen ช่วยเรื่องการลงรายละเอียดได้ดี ผมเลยใช้กับใบหน้าและการแรเงากล้ามเนื้อไปพอสมควร จากนั้นผมก็ใช้มัลติไลน์เนอร์กับส่วนต่างๆ ของชุดเพื่อให้ดูมีแบบแผนมากขึ้นเล็กน้อย เพราะมัลติไลน์เนอร์มีเส้นที่สม่ำเสมอกัน

 

 

เครื่องมือแต่ละแบบให้ความรู้สึกที่ต่างกัน สร้างรูปลักษณ์ที่แตกต่างในชิ้นงาน ซึ่งน่าสนใจมาก! จะใช้มันยังไงก็ขึ้นกับทุกคนแล้ว!

 

ถ้าต้องการจะลงลึกในเรื่องนี้ ก็อย่าลืมดูวิดีโอที่ผมได้ทำไว้คู่กับบทความนี้ ซึ่งมีเคล็ดลับและไทม์แลปส์ของการสาธิตลงหมึกด้วย

 

ตอนนี้ก็ออกไปสร้างคอมมิกเจ๋งๆ ได้เลย!