คู่มือโหมดผสานฉบับสมบูรณ์

โหมดผสานคืออะไร?

โหมดผสานคือเอฟเฟกต์ที่สามารถเพิ่มลงในเลเยอร์เพื่อเปลี่ยนวิธีที่สีจะผสมกันกับสีในเลเยอร์ที่อยู่ต่ำกว่า

เพียงแค่เปลี่ยนโหมดผสานก็จะทำให้สามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์ของภาพวาดได้ง่ายๆ

 

จะเปลี่ยนโหมดผสานได้อย่างไร?

โหมดผสานของเลเยอร์จะถูกตั้งเป็น [ปกติ (Normal)] ในค่าเริ่มต้น

สิ่งใดก็ตามที่วาดด้วยความทึบ 100% จะปรากฏเป็นสีทึบ ดังนั้นเลเยอร์ด้านล่างจึงมองไม่เห็น

สามารถเปลี่ยนวิธีที่สีผสานกับเลเยอร์ด้านล่างได้โดยการเปลี่ยนโหมดผสาน

หากต้องการเปลี่ยนโหมดผสานของเลเยอร์ เพียงเลือกเลเยอร์และเปลี่ยนโหมดในกล่องดรอปดาวน์

 

 

มีโหมดผสานอะไรบ้าง?

ตัวอย่างต่อไปนี้จะแสดงให้เห็นเอฟเฟกต์ของแต่ละโหมดผสาน

โหมดต่างๆ จะถูกนำไปใช้กับเลเยอร์บนสุด (รูปหัวใจ) เพื่อให้เห็นว่าสีเปลี่ยนแปลงอย่างไรบนเลเยอร์พื้นหลังที่อยู่ต่ำกว่า

 

 

 

ปกติ (Normal)

ในโหมดปกติ สีจะถูกวางทับสีของเลเยอร์ด้านล่าง

 

 

ทำให้มืดลง (Darken)

โหมดทำให้มืดลงจะเปรียบเทียบสีของเลเยอร์ที่ผสานและเลเยอร์ฐาน แล้วเก็บสีที่เข้มกว่าไว้

 

 

มัลทิไพล (Multiply)

โหมดมัลทิไพลจะคูณสีของเลเยอร์ที่ผสานและเลเยอร์ฐานเข้าด้วยกัน ทำให้ได้สีที่เข้มขึ้น โหมดนี้มีประโยชน์สำหรับการลงสีเงา

 

 

คัลเลอร์เบิร์น (Color burn)

โหมดคัลเลอร์เบิร์นตั้งชื่อตามเทคนิคการล้างฟิล์มถ่ายภาพที่เรียกว่าการ “เบิร์น” หรือการเปิดรับแสงมากเกินไปเพื่อให้สีเข้มขึ้น

โหมดผสานนี้ทำให้สีเข้มขึ้นและเพิ่มคอนทราสต์ของสีฐาน จากนั้นผสานสีของเลเยอร์ที่ผสาน

 

 

ลิเนียร์เบิร์น (Linear burn)

โหมดลิเนียร์เบิร์นจะผสานสีของเลเยอร์ที่ผสานโดยทำให้สีของเลเยอร์ฐานเข้มขึ้น

 

 

หักลบ (Subtract)

โหมดหักลบจะลบสีของเลเยอร์ที่ผสานออกจากสีฐาน ทำให้ได้สีที่เข้มขึ้น

 

 

ทำให้สว่างขึ้น (Lighten)

โหมดทำให้สว่างขึ้นจะเปรียบเทียบสีฐานและสีของเลเยอร์ที่ผสาน แล้วเก็บสีที่สว่างกว่าไว้

 

 

สกรีน (Screen)

โหมดสกรีนจะกลับสีฐานและคูณกับสีของเลเยอร์ที่ผสาน

ทำให้เกิดเอฟเฟกต์ตรงข้ามกับโหมดมัลทิไพล สีที่ได้จะสว่างกว่าสีเดิม

 

 

คัลเลอร์ดอดจ์ (Color dodge)

โหมดคัลเลอร์ดอดจ์จะทำให้สีของเลเยอร์ฐานสว่างขึ้นและลดคอนทราสต์ลง ทำให้ได้สีโทนกลางที่อิ่มตัว

 

 

โกลว์ดอดจ์ (Glow dodge)

โหมดโกลว์ดอดจ์จะทำให้เกิดเอฟเฟกต์ที่แรงกว่าโหมดคัลเลอร์ดอดจ์

 

 

เพิ่ม (Add)

โหมดเพิ่มจะเพิ่มข้อมูลสีของเลเยอร์ฐานและเลเยอร์ที่ผสาน ในทางดิจิทัล การเพิ่มสีจะเพิ่มความสว่าง

 

 

เพิ่ม (เรืองแสง) (Add (Glow))

โหมดเพิ่ม (เรืองแสง) จะทำให้เกิดเอฟเฟกต์ที่แรงกว่าโหมดเพิ่ม

 

 

โอเวอร์เลย์ (Overlay)

โหมดโอเวอร์เลย์ทำงานเหมือนโหมดสกรีนในบริเวณที่สว่าง และเหมือนโหมดมัลทิไพลในบริเวณที่มืด

ด้วยโหมดนี้ บริเวณที่สว่างจะดูสว่างขึ้นและบริเวณที่มืดจะดูมืดลง

 

 

ซอฟท์ไลท์ (Soft light)

เอฟเฟกต์ของโหมดซอฟท์ไลท์ขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของสีที่ซ้อนทับ

การใช้สีสว่างบนเลเยอร์ที่ผสานจะทำให้เกิดเอฟเฟกต์สว่างขึ้นเหมือนโหมดดอดจ์

ในขณะที่สีเข้มจะทำให้เข้มขึ้นเหมือนโหมดเบิร์น

สีใดๆ ที่วางไว้เหนือบริเวณสีขาวจะปรากฏเป็นสีขาว

 

 

ฮาร์ดไลท์ (Hard light)

เอฟเฟกต์ของโหมดฮาร์ดไลท์จะขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของสีที่ซ้อนทับ

การใช้สีสว่างบนเลเยอร์ที่ผสานจะทำให้เกิดเอฟเฟกต์สว่างขึ้นเหมือนโหมดสกรีน

ในขณะที่สีเข้มจะทำให้เข้มขึ้นเหมือนโหมดมัลทิไพล

 

 

ความแตกต่าง (Difference)

โหมดความแตกต่างจะลบสีของเลเยอร์ที่ผสานออกจากสีฐาน เก็บค่าผลลัพธ์ไว้ แล้วรวมเข้ากับสีฐานเดิม

 

 

ตัวอย่าง

เราได้ครอบคลุมโหมดผสานหลักๆ ที่จำเป็นไปแล้ว

ทีนี้เรามาดูตัวอย่างง่ายๆ สำหรับวิธีใช้โหมดผสานในผลงานกัน

บทความนี้ใช้โหมดผสานใน Clip Studio Paint

แต่ในซอฟต์แวร์กราฟิกอื่นๆ ที่มีโหมดผสานก็สามารถทำให้ได้เอฟเฟกต์คล้ายกันได้

 

 

สร้างเลเยอร์ไล่โทนสีส้มบนภาพพื้นหลัง

 

 

เลือกเลเยอร์ที่มีการไล่โทนสีส้มและตั้งค่าโหมดผสานเป็นฮาร์ดไลท์ (Hard light) จากนั้นลดความทึบลงเหลือ 85%

จะทำให้ท้องฟ้าเป็นสีส้มและเปลี่ยนจากฉากกลางวันเป็นฉากพระอาทิตย์ตก

 

 

การใช้โหมดผสานเช่นนี้ทำให้สามารถเปลี่ยนบรรยากาศโดยรวมของภาพวาดได้

โหมดผสานสามารถทำให้เกิดเอฟเฟกต์มากมายในผลงานได้

ลองใช้ดูหลายๆ แบบเพื่อเปิดโลกสู่การแสดงไอเดียแบบใหม่ๆ !