แท็บเล็ตและเมาส์ปากกา 13 อันดับแรกในปี 2025!
13 อันดับแท็บเล็ตวาดภาพที่ดีที่สุด ปี 2025! เราได้เปรียบเทียบเมาส์ปากกาและแท็บเล็ต 13 รุ่น สำหรับผู้เริ่มต้นวาดภาพดิจิทัล
13 อันดับแท็บเล็ตวาดภาพที่ดีที่สุด ปี 2025! เราได้เปรียบเทียบเมาส์ปากกาและแท็บเล็ต 13 รุ่น สำหรับผู้เริ่มต้นวาดภาพดิจิทัล
ไม่ว่าจะเป็นมืออาชีพที่อยากเริ่มต้นงานศิลปะดิจิทัล หรือเป็นมือใหม่ที่ต้องการหัดวาดภาพแบบดิจิทัล มีแท็บเล็ตที่เหมาะกับทุกคนอยู่แน่นอน แต่เพราะแท็บเล็ตมีตัวเลือก ราคา และคุณสมบัติที่หลากหลาย การจะหาแท็บเล็ตที่ใช่จึงน่าปวดหัวไม่น้อย เพื่อช่วยจำกัดตัวเลือกให้ทุกคน เราจึงคัดเลือก 13 รุ่นที่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นและสามารถนำไปใช้จริงในการสร้างงานวาดภาพดิจิทัลได้!
ประเภทของแท็บเล็ตวาดภาพมีอะไรบ้าง?
แท็บเล็ตสามารถแบ่งเป็นคร่าวๆ ได้สามประเภท: เมาส์ปากกา จอวาดภาพ และแท็บเล็ตพีซี แท็บเล็ตทุกรูปแบบสามารถเลียนแบบความรู้สึกของการวาดภาพแบบดั้งเดิมได้ด้วยการใช้ปากกาและระดับแรงกด อ่านต่อเพื่อดูรายละเอียดของแต่ละประเภท พร้อมรายการรุ่นที่แนะนำของแต่ละกลุ่ม
เมาส์ปากกา (แท็บเล็ตที่ไม่มีหน้าจอ)

ข้อดี: เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้เริ่มต้นวาดภาพดิจิทัล ราคาไม่แพง (ต่ำกว่า $100 USD หรือ 3,000 บาท) และสามารถวาดภาพได้เป็นเวลานานในท่าทางที่ถูกต้องและสบายตัว
ข้อเสีย: ต้องฝึกประสานมือกับตา เพราะต้องมองหน้าจอขณะวาดภาพ รุ่นเหล่านี้ต้องเชื่อมต่อกับพีซีหรืออุปกรณ์อื่นจึงจะใช้งานได้
- Wacom Intuos S พร้อม Bluetooth
- Wacom Intuos Pro Medium (รุ่น 2025)
- Huion Inspiroy 2 S
- XP-PEN Deco Mini 7
- เมาส์ปากกา GAOMON S620
จอวาดภาพ (ยังเป็นที่รู้จักในชื่อเมาส์ปากกาแบบมีจอ หรือแท็บเล็ตวาดภาพ LCD)

ข้อดี: วาดภาพได้เหมือนวาดบนกระดาษ แต่เป็นดิจิทัล! จอวาดภาพใช้งานง่าย เพราะสามารถวาดบนหน้าจอโดยตรง มักมีคุณภาพสูงกว่าเมาส์ปากกาปกติ จึงทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับมืออาชีพและผู้สร้างสรรค์ที่มีประสบการณ์
ข้อเสีย: ราคาของจอวาดภาพจะแตกต่างกันตามขนาด ตั้งแต่ประมาณ $300-$3,500 (1,000 ถึง 120,000 บาท) จึงเหมาะกับคนที่มีงบประมาณมากพอ เหมือนเมาส์ปากกาที่ไม่มีจอ ยังต้องเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น
แท็บเล็ตพีซี/แท็บเล็ต (พีซีและแท็บเล็ตในอุปกรณ์เดียว)

ข้อดี: แท็บเล็ตที่รวมฟังก์ชันวาดภาพและคอมพิวเตอร์ไว้ด้วยกัน เหมาะกับศิลปินที่ชอบทำงานนอกสถานที่ แค่ใช้อุปกรณ์เครื่องเดียวแบบสแตนอโลนที่มีปากกาสไตลัส อย่าง Apple Pencil สำหรับ iPad และ Wacom Bamboo Sketch สำหรับ macOs และอุปกรณ์ Android
ข้อเสีย: โดยปกติต้องซื้อปากกาสไตลัสแยกต่างหาก ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม แม้ว่าแท็บเล็ตพวกนี้จะเป็นเครื่องมือเฉพาะสำหรับงานศิลปะ แต่ก็อาจขาดฟีเจอร์สำหรับการวาด เช่น การตรวจจับการเอียงปากกา และไม่ได้ถูกออกแบบมาโดยคำนึงถึงศิลปินเป็นหลัก
- Microsoft Surface Pro 11
- Samsung Galaxy Tab S10+
- Apple iPad 11 + Apple Pencil (รุ่นที่ 1)
- Apple 13-นิ้ว iPad Pro (รุ่นที่ 7) + Apple Pencil Pro
เมาส์ปากกา
Wacom Intuos S พร้อม Bluetooth
แท็บเล็ตวาดภาพรุ่นเริ่มต้นจาก Wacom ที่มาพร้อมกับโปรแกรม Clip Studio Paint PRO!

ซีรีส์ Intuos ของWacom เป็นเมาส์ปากกาคุณภาพสูงที่ตอบโจทย์ผู้ใช้ได้หลากหลาย ตั้งแต่มือใหม่จนถึงผู้ใช้ขั้นสูง ตัวปากกามีขนาดใกล้เคียงกับดินสอกดหรือปากกาลูกลื่น จึงจับได้ถนัดมือ นอกจากนี้ ปากกายังไม่ต้องใช้แบตเตอรี่แยก ทำให้มีน้ำหนักเบาและใช้งานง่าย และยังเหมาะสำหรับใช้วาดรูปราคาย่อมเยาสำหรับเด็กๆ ด้วย
สามารถเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth ซึ่งช่วยประหยัดพื้นที่บนโต๊ะทำงานได้มากขึ้น เวลาที่ไม่ใช้ปากกา ก็สามารถวางไว้ในร่องด้านบนปุ่มลัดได้เลย ทำให้ไม่ต้องใช้แท่นวางปากกาแบบเดิม
ข้อดีของแบรนด์แท็บเล็ตวาดภาพ Wacom ก็คือ ร้านค้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ใหญ่มักมีตัวอย่างสินค้าแสดงภายในร้าน จึงสามารถทดลองใช้งานก่อนตัดสินใจซื้อได้ หลังจากที่ซื้อแล้วก็สามารถดาวน์โหลดซอฟต์แวร์วาดภาพที่ต้องการได้ เช่น Painter Essentials 8 หรือ Clip Studio Paint PRO โมเดล
Wacom Intuos S ยังรองรับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต Android บางรุ่นที่ใช้ Android OS 6.0 ขึ้นไปด้วย ใช้อะแดปเตอร์ USB OTG ที่รองรับเชื่อมต่อได้
เมาส์ปากกานี้มีสองสี: สีดำและสีเขียวพิสตาชิโอ
- ขนาดผลิตภัณฑ์: 200.0 x 160.0 x 8.8 มม.
- พื้นที่วาด: 152.0 x 95.0 มม.
- ค่าน้ำหนักมือแรงกดปากกา: 4096
- ราคา: Wacom Intuos S พร้อม Bluetooth $79.95 USD (ประมาณ 2,600 บาท) (เมื่อเดือนเมษายน 2025)
Wacom Intuos Pro Medium
แท็บเล็ตวาดภาพรุ่นเรือธงของ Wacom ที่ออกแบบมาเพื่อมืออาชีพโดยเฉพาะ!

เมาส์ปากการุ่น Intuos Pro มีค่าน้ำหนักมือแรงกดปากกา 8192 ระดับ และมาพร้อมกับ Pro Pen 3 ที่สามารถปรับแต่งได้ รุ่นนี้มีความแม่นยำสูง จึงช่วยให้สามารถวาดลายเส้นที่มีรายละเอียด เช่น การเขียนอักษร หรือการลงเส้นหนังสือคอมมิก เมาส์ปากกา Intuos Pro ช่วยให้สามารถควบคุมความหนาและลึกของเส้นได้ผ่านแรงกดของปากกา นอกจากนี้ ยังรองรับการเอียงปากกาด้วย จึงสามารถวาดด้วยด้านข้างของปากกาได้ในแอพที่รองรับ
พื้นผิวของแท็บเล็ตมีแรงเสียดทานปานกลาง ให้ความรู้สึกคล้ายกับการวาดบนกระดาษ รุ่นนี้ยังสามารถเชื่อมต่อไร้สายผ่าน Bluetooth ซึ่งช่วยให้พื้นที่บริเวณโต๊ะทำงานดูเรียบร้อยมากขึ้น แม้ว่าตัวแท็บเล็ตจะมีขนาดใหญ่ก็ตาม มีปุ่มลัดและปุ่มหมุนที่สามารถปรับแต่งได้อยู่ด้านบนของแท็บเล็ต เพื่อให้ใช้งานง่ายทั้งคนถนัดซ้ายและขวา นี่คือแท็บเล็ตที่ศิลปินทุกระดับสามารถเลือกใช้งานได้อย่างมั่นใจ
- ขนาดผลิตภัณฑ์: 291 x 206 x 4-7 มม.
- พื้นที่วาด: 263 x 148 มม.
- ค่าน้ำหนักมือแรงกดปากกา: 8192
- ราคา: $379.95 USD (ประมาณ 12,400 บาท) (เมื่อเดือนเมษายน 2025)
Huion Inspiroy 2 S
แท็บเล็ตวาดภาพ Huion ขนาดเล็กพกพาสะดวก

Inspiroy 2 S เป็นรุ่นเล็กที่สุดในซีรีส์ Inspiroy 2 ของ Huion แต่คุ้มค่าเกินราคา มีสีชมพูโดดเด่นและสีดำมาตรฐาน เป็นเมาส์ปากกาที่พกพาง่ายและราคาไม่แพงซึ่งเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นที่อยากลองวาดภาพดิจิทัล
มาพร้อมปากกาไร้แบตเตอรี่ รองรับแรงกด 8192 ระดับ และการตรวจจับการเอียง ที่วางปากกา และหัวปากกา 10 อัน อุปกรณ์เสริมทั้งหมดมีสีเข้าชุดกับแท็บเล็ตที่เลือก แม้ว่าจะมีขนาดเล็ก แต่ Huion ก็มีปุ่มลัดที่ปรับแต่งได้ 6 ปุ่มและตัวเลื่อนมาให้ด้วย รุ่น M และ L ที่ขนาดใหญ่กว่าจะมีปุ่มตัวลัดมากขึ้น และมีระบบจัดกลุ่มเพื่อเปลี่ยนคำสั่งลัดในครั้งเดียว พื้นผิวมีผิวสัมผัสคล้ายกระดาษ
อาจต้องปรับการตั้งค่าแรงกดในไดรเวอร์และการตั้งค่า Windows Ink แต่เส้นที่วาดมีความราบรื่นและต่อเนื่อง โดยรวมแล้ว เป็นแท็บเล็ตขนาดเล็กที่คุ้มค่ากับราคา ถ้าต้องการพื้นที่วาดเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย ก็สามารถเลือกใช้รุ่น M หรือ L ได้
- ขนาดผลิตภัณฑ์: 246 x 152 x 7.5-9.5 มม.
- พื้นที่วาด: 160 x 100 มม.
- ค่าน้ำหนักมือแรงกดปากกา: 8192
- ราคา: $49.99 USD (ประมาณ 1,600 บาท) (เมื่อเดือนเมษายน 2025)
XPPEN Deco Mini 7
เมาส์ปากกาขนาดกะทัดรัดและพกพาสะดวก

แท็บเล็ตวาดภาพโดย XPPEN เป็นตัวเลือกที่ประหยัด เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น มีขนาดประมาณกระดาษ B5 เหมาะสำหรับการวาดภาพขณะเดินทาง
XPPEN Deco Mini รองรับการเอียงปากกาซึ่งหาได้ยากในราคานี้ ฟีเจอร์การเอียงของปากกานี้อาจยุ่งยากกว่า Apple Pencil และสไตลัสนิดหน่อย จึงอาจต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ถ้าวาดเส้นธรรมดาทั่วไป อาจจะไม่รู้สึกถึงความแตกต่างนี้เลย
ปากกาสไตลัสมีปุ่มข้าง 2 ปุ่ม และตัวแท็บเล็ตเองมีปุ่มลัดให้ใช้งานถึง 8 ปุ่ม ซึ่งสามารถตั้งค่าเองได้ตามต้องการ ดาวน์โหลดไดรเวอร์เพื่อปรับแต่งและปรับปรุงขั้นตอนการทำงาน เมื่อติดตั้งไดรเวอร์แล้วจะสามารถตั้งค่าทิศทางของแท็บเล็ตให้เหมาะกับตัวเองที่สุด ไม่ว่าจะถนัดขวาหรือซ้าย
แท็บเล็ตยังมีหัวหัวปากกาสำรอง และสายเชื่อมต่อแบบ 3-in-1 สำหรับเชื่อมต่อบสมาร์ทโฟน Android น่าเสียดายที่ไม่มีที่วางปากกาและไม่สามารถเก็บปากกาไว้กับแท็บเล็ตได้ อาจต้องซื้อที่วางปากกาแยกต่างหากเพื่อป้องกันการทำปากกาหาย
- ขนาดผลิตภัณฑ์: 260.2 x 162.2 x 9.3 มม.
- พื้นที่วาด: 177.8 x 111.1 มม.
- ค่าน้ำหนักมือแรงกดปากกา: 8192
- ราคา: $49.99 USD (1,790 บาทในไทย) (เมื่อเดือนเมษายน 2025)
GAOMON S620 เมาส์ปากกา
แท็บเล็ตราคาไม่แพงสำหรับเริ่มต้นศิลปะดิจิทัล

ปิดท้ายรายการเมาส์ปากกาของเราด้วยเมาส์ปากกาสุดคุ้มราคาประหยัดโดย GAOMON นี้ แม้จะมีพื้นที่วาดภาพที่เล็กที่สุดในกลุ่มนี้ แต่ก็มีราคาถูกที่สุด จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้เริ่มต้นวาดภาพดิจิทัล แต่ไม่แน่ใจว่าอยากจะซื้อรุ่นที่ราคาสูงกว่านี้หรือไม่ ก็ยังสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตแทนการใช้กับคอมพิวเตอร์ได้ เหมาะกับการวาดเล่นระหว่างเดินทาง
สไตลัสไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ และรองรับแรงกด 8192 ระดับ ให้ความคุ้มค่าสูง มีปุ่มตัวลัดปรับแต่งได้ 2 ปุ่มบนปากกา แต่ไม่มีฟังก์ชันลบแบบดิจิทัล อุปกรณ์ในกล่องประกอบด้วยแท็บเล็ต สไตลัส สาย USB และหัวปากกา 8 ชิ้น
คุณภาพของตัวแท็บเล็ตดีเกินราคา พื้นผิวแบบด้านทำให้วาดเส้นได้ลื่นและต่อเนื่อง โดยรวมแล้ว GAOMON รุ่นนี้เป็นแท็บเล็ตวาดภาพที่เรียบง่ายแต่เหมาะมากสำหรับผู้เริ่มต้น บางคนยังใช้เล่นเกมด้วย!
- ขนาดผลิตภัณฑ์: 211 x 174 x 8 มม.
- พื้นที่วาด: 165.1 x 101.6 มม.
- ค่าน้ำหนักมือแรงกดปากกา: 8192
- ราคา: $33.99 USD (ประมาณ 1,100 บาท) (เมื่อเดือนเมษายน 2025)
จอวาดภาพ
Wacom One 12
ขยายขีดจำกัดหน้าจอ Android! จอวาดภาพที่สมบูรณ์แบบสำหรับศิลปินดิจิทัลมือใหม่!

Wacom One เป็นแท็บเล็ตวาดภาพระดับเริ่มต้นที่มาพร้อมหน้าจอ ราคาประหยัดทำให้ภาพและสีอาจไม่คมชัดมาก เส้นมีดีเลย์เล็กน้อย และแรงกดปากกาอยู่ที่ 4096 ระดับ แต่มีการตรวจจับความเอียงและแรงกดที่แม่นยำมาก ทำให้ได้งานเส้นที่เทียบเท่ากับรุ่นสูงๆ ได้
แท็บเล็ตยังสามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Android ได้ด้วย ดังนั้นเพียงแค่มีสมาร์ทโฟนและแอพวาดภาพที่รองรับแรงกดปากกา ก็สามารถวาดได้โดยไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ และยังมาพร้อมกับซอฟต์แวร์หลายตัวเพื่อเริ่มสร้างงานได้ทันที
แม้ว่าจะไม่มีปากกาสไตลัสรุ่นสูง เช่น Pro Pen แต่ Wacom One Pen มีน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ใช้งานง่าย และไม่ต้องชาร์จไฟ นอกจาก Wacom One Pen แล้ว ยังรองรับปากกาเทคโนโลยี EMR จากแบรนด์ดัง อย่าง Staedler จึงสามารถทดลองใช้ปากกาหลากหลายแบบได้
ถ้าต้องการ Wacom รุ่นที่สูงกว่านี้ Wacom Cintiq 16 อาจจะตอบโจทย์
- ขนาดผลิตภัณฑ์: 357 x 225 x 14.6 มม.
- พื้นที่วาด: รุ่น 13.3 นิ้ว 294 x 166 มม. (ความละเอียด: 1920 x 1080)
- ค่าน้ำหนักมือแรงกดปากกา: 4096
- ราคา: เริ่มที่ $209.95 USD (ประมาณ 6,900 บาท) (เมื่อเดือนเมษายน 2025)
Wacom Movink
บางเพียง 4 มม.! จอวาดภาพที่บางและเบาที่สุดของ Wacom

ด้วยน้ำหนักเพียง 420 กรัม และความบางเพียงไม่กี่มิลลิเมตร Wacom Movink จึงเป็นแท็บเล็ตจอวาดภาพที่บางเฉียบ เหมาะกับการพกพาเวลาเกิดแรงบันดาลใจ นอกจากนี้ยังเป็นหน้าจอ OLED รุ่นแรกของ Wacom ที่ป้องกันแสงสะท้อน เพื่อแสดงสีสันสดใสและความเข้มของสีที่ลึกอย่างเต็มที่ แม้จะเป็นหนึ่งในแท็บเล็ตที่ราคาแพงที่สุดในรายการนี้ แต่ประสิทธิภาพและขนาดก็คุ้มค่ากับราคา
Wacom Pro Pen 3 ก็เป็นสไตลัสรุ่นล่าสุดของ Wacom ที่สามารถปรับความหนาของด้ามจับและปุ่มด้านข้างได้ แต่อุปกรณ์เสริมเหล่านี้มีจำหน่ายแยกกับปากกา ไม่ได้แถมมากับแท็บเล็ต นอกจากนี้ ยังมีที่วางและปลอกจำหน่ายแยกต่างหาก แต่อาจทำให้ราคารวมเกินงบที่ตั้งไว้
ต่างจากจอวาดภาพรุ่นราคาต่ำกว่า Movink มีเทคโนโลยีสัมผัสหน้าจอ สามารถซูมและหมุนภาพด้วยนิ้ว แม้ว่าจะไม่มีปุ่มลัดบนตัวเครื่องมากนัก แต่ก็มี 2 ปุ่มที่ขอบด้านข้างของอุปกรณ์ หากชอบให้มีปุ่มและตัวหมุนที่ปรับแต่งได้มากขึ้น อาจต้องมองหาแบบอื่น แต่รุ่นนี้ก็ใช้พื้นที่หน้าจอได้เต็มที่โดยไม่มีปุ่มเหล่านั้น
- ขนาดผลิตภัณฑ์: 319.5 x 205.2 x 4-6.6 มม.
- พื้นที่วาด: 294 x 165 มม.
- ค่าน้ำหนักมือแรงกดปากกา: 8192
- ราคา: $749.95 USD (ประมาณ 24,510 บาท) (เมื่อเดือนเมษายน 2025)
XPPEN Artist 13.3 Pro V2
สไตลัสแรกของโลกที่มีระดับแรงกด 16k!

Artist 13.3 PRO V2 โดย XPPEN มีราคาไม่สูงมาก แต่มีทุกสิ่งที่ต้องการสำหรับการสร้างสรรค์ผลงานระดับมืออาชีพ และยังมีฟีเจอร์การเคลือบหน้าจอแบบเต็มรูปแบบ
แท็บเล็ตนี้ให้ประสบการณ์การวาดที่ลื่นไหล ด้วยปากกาที่ลงเส้นได้อย่างแม่นยำ สามารถปรับแต่งปุ่มตัวลัด 8 ปุ่มและวงล้อเลื่อนได้ ปุ่มจะตอบสนองเพียงแค่การสัมผัสเบาๆ และวงล้อก็ให้ความรู้สึกที่น่าพอใจเมื่อหมุน ถ้าถนัดซ้าย ก็สามารถปรับการตั้งค่าไดรเวอร์และปรับแต่งปุ่มตัวลัดได้
X3 Pro Stylus เป็นปากกาตัวแรกของโลกที่มีระดับแรงกด 16k สำหรับการวาดเส้นที่เรียบและแม่นยำ นอกจากนี้ ยังรองรับการตรวจจับการเอียงได้ถึง 60 องศา และยังมาพร้อมที่วางปากกาเพื่อเก็บสไตลัสและหัวปากกาสำรองด้วย
ภายในชุดจอวาดภาพนี้มีขาตั้งที่สามารถวางแท็บเล็ตไว้ข้างบน และไม่เคลื่อนที่เลยตอนที่เราทดสอบ นอกจากนี้จะได้รับถุงมือและผ้าเช็ดหน้าจอมาให้ด้วยเมื่อซื้อสินค้า นี่อาจเป็นตัวเลือกดีที่สุดถ้ากำลังมองหาจอวาดภาพที่มีคุณภาพดีในงบจำกัด
- ขนาดผลิตภัณฑ์: 390.4 x 250 x 12.9 มม.
- พื้นที่วาด: 294.8 x 166.2 มม.
- ค่าน้ำหนักมือแรงกดปากกา: 16384
- ราคา: $299.99 USD (14,200 บาทในไทย) (เมื่อเดือนเมษายน 2025)
Huion Kamvas 16 (Gen 3)
ความละเอียดสูงและสไตลัสแรงกด 16k ระดับเพื่อประสิทธิภาพระดับสูงสุด

Huion Kamvas 16 (Gen 3) ใหม่มีความละเอียดสูงที่สุดในกลุ่มจอวาดภาพที่อยู่ในรายการของเรา และมีความหนาแน่นของพิกเซลมากกว่าคู่แข่ง หน้าจอกันแสงสะท้อนขนาดใหญ่ 15.8 นิ้ว ที่ให้ภาพคมชัดพร้อมสีที่แม่นยำ เมื่อใช้ร่วมกับสไตลัสที่มีความไวต่อแรงกดระดับ 16k จอวาดภาพนี้จึงอัดแน่นไปด้วยประสิทธิภาพสำหรับการวาดภาพดิจิทัล
เส้นที่วาดมีความสม่ำเสมอและหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นทำให้แสดงพาเล็ตแอพได้อย่างสบาย และยังมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการวาดด้วย นอกจากนี้ ยังมีปุ่มหมุน 2 ปุ่ม และปุ่มลัด 6 ปุ่ม ที่ปรับแต่งได้ตามต้องการ
แท็บเล็ตมาพร้อมขาตั้ง ซึ่งช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและรองรับการวาดภาพในท่าทางที่เหมาะสมเมื่อใช้แท็บเล็ตขนาดใหญ่นี้ ถึงแม้แท็บเล็ตจะติดรอยนิ้วมือได้ง่าย แต่ในชุดมีผ้าเช็ดหน้าจอมาให้ด้วย นอกจากนี้ ยังมีถุงมือสำหรับวาดภาพและสายเคเบิลต่างๆ สำหรับเชื่อมต่อแท็บเล็ตกับอุปกรณ์ที่เลือกใช้ด้วย
ถ้าสนใจจอวาดภาพ Huion ในขนาดเล็กกว่านี้ ยังมีรุ่น Kamvas 13 (Gen 3) ราคาถูกกว่าครึ่งหนึ่ง
- ขนาดผลิตภัณฑ์: 421.2 x 236.81 x 12.62 มม.
- พื้นที่วาด: 349.6 x 196.7 มม.
- ค่าน้ำหนักมือแรงกดปากกา: 16384
- ราคา: $499.00 USD (ประมาณ 16,300 บาท) (เมื่อเดือนเมษายน 2025)
แท็บเล็ตพีซี/แท็บเล็ต
Microsoft Surface Pro 11
สร้างชุดแท็บเล็ตพีซีที่สมบูรณ์แบบตามงบประมาณและวัตถุประสงค์

Surface Pro ไม่ใช่แท็บเล็ตสำหรับวาดภาพโดยเฉพาะ แต่คือแท็บเล็ตพีซีที่สามารถวาดภาพได้ด้วย เพียงแค่ซื้ออุปกรณ์เสริม ก็จะสามารถปรับแต่งได้ตามที่ต้องการ
ผลิตภัณฑ์นี้มาพร้อมกับโปรแกรม Word และ Excel ดังนั้นถ้าเลือกซื้อคีย์บอร์ดเสริม ก็สามารถใช้อุปกรณ์นี้สำหรับงานต่างๆ ได้ด้วย นอกจากนี้ ยังสามารถดาวน์โหลดโปรแกรมวาดภาพและหาซื้อ Surface Slim Pen มาใช้กับฟังก์ชันแรงกดปากกาและเริ่มต้นวาดภาพได้ ขาตั้งดั้งเดิมที่ติดมากับอุปกรณ์นั้นมีคุณภาพดีและเป็นประโยชน์กับศิลปิน เพราะทำให้สามารถปรับมุมของอุปกรณ์ได้ตามต้องการโดยไม่ต้องซื้ออุปกรณ์เสริมเพิ่มเติม
เหมาะสำหรับใช้เป็นแท็บเล็ตวาดภาพ เพราะเมื่อใช้คู่กับ Surface Slim Pen จะสามารถรับรู้แรงกดปากกาได้ถึง 4096 ระดับ รวมถึงรองรับการเอียงปากกา ซึ่งให้ประสบการณ์ใกล้เคียงกับการวาดภาพด้วยมือ ปากกาชาร์จไฟแบบไร้สาย จึงไม่ต้องกังวลเรื่องการเสียบสายชาร์จ ถ้าใช้ Surface Pro Signature Keyboard หรือ Surface Laptop Studio จะสามารถชาร์จปากกาได้ขณะอยู่ในที่จัดเก็บ ปากกานี้มีรูปทรงแบน แตกต่างจากปากกาแท็บเล็ตทั่วไป ทำให้พกพาง่าย อาจรู้สึกแปลกเล็กน้อยเมื่อจับปากกาถ้าคุ้นเคยกับปากกาแบบกลม
- ขนาดผลิตภัณฑ์: 287 x 209 x 9.3 มม.
- พื้นที่วาด: รุ่น 13 นิ้ว
- ค่าน้ำหนักมือแรงกดปากกา: 4096
- ราคา: Surface Pro 11 เริ่มต้นที่ $999.99 USD (39,900 บาทในไทย) Surface Slim Pen $129.99 USD (5,090 บาทในไทย) (เมื่อเดือนเมษายน 2025)
Samsung Galaxy S10+
พกพาความสร้างสรรค์ไปได้ทุกที่กับ Galaxy Tab รุ่นใหม่พร้อม S-Pen ที่จดสิทธิบัตรโดย Samsung

แท็บเล็ตทรงพลังนี้มาพร้อม S-Pen ที่มีค่าน้ำหนักมือแรงกดปากกา 4096 ระดับ ช่วยให้วาดลายเส้นของแปรงได้หลากหลายและน่าทึ่ง S-Pen เป็นสไตลัสเพรียวบางคล้ายกับดินสอ ทำให้จับได้ถนัดมือ
ความแตกต่างหลักระหว่างแท็บเล็ตนี้กับ iPad ที่มี Apple Pencil คือสามารถใช้เคอร์เซอร์ชี้บนหน้าจอเพื่อเปิดเมนูต่างๆ หมายความว่าการเปลี่ยนขนาดแปรง รูปร่าง และอื่นๆ จะง่ายขึ้นขณะวาด ซีรีส์ Galaxy Tab ใช้เทคโนโลยีปากกาดิจิทัล (EMR) เหมือนกับ Wacom ทำให้เส้นลื่นไหลและรวดเร็ว
มีช่องเก็บปากกา S-Pen ที่ด้านหลังแท็บเล็ต เพื่อเก็บ S-Pen ได้อย่างปลอดภัย ช่องเก็บมีแม่เหล็กจึงช่วยให้ปากกาอยู่กับที่ และยังสามารถชาร์จได้ในตัว S-Pen ยังมีฟังก์ชัน “ท่าทางปากกา” (Air Action) ซึ่งเป็นท่าทางที่ปรับแต่งได้ด้วยปากกา กดปุ่มบน S-Pen ขณะทำท่าทางเพื่อใช้ตัวลัดเหล่านี้
มี Clip Studio Paint ติดตั้งมาในเครื่อง Galaxy Tab แล้ว และสามารถใช้งานฟรีได้ 6 เดือน ลองใช้ดู ถ้าสนใจเปลี่ยนมาใช้แท็บเล็ตสำหรับวาดภาพ ก็ยังสามารถใช้ประโยชน์จากเฟรมผ้าใบบนหน้าจอ 12.4 นิ้วได้อย่างเต็มที่ โดยเปิดโหมดใช้งานร่วมของ Clip Studio Paint บนสมาร์ทโฟนเพื่อจัดการแถบควบคุมนอกหน้าจอ
อุปกรณ์มีตัวเลือกสำหรับพื้นที่จัดเก็บข้อมูล 2 แบบ: 256GB และ 512GB อย่างไรก็ตามสามารถซื้อ MicroSD แยก เพื่อให้ได้พื้นที่จัดเก็บมากถึง 1.5TB
- ขนาดผลิตภัณฑ์: 285.4 x 185.4 x 5.6 มม.
- พื้นที่วาด: รุ่น 12.4 นิ้ว (ขนาดแสดงผล: 2800 x 1752 px)
- ค่าน้ำหนักมือแรงกดปากกา: 4096
- ราคา: $999.99 USD (35,900 บาทในไทย) (เมื่อเดือนเมษายน 2025)
Apple iPad 11 + Apple Pencil (รุ่นที่ 1)
แท็บเล็ต iPad วาดภาพสำหรับมือใหม่ในราคาประมาณ US$500 (ประมาณ 15,000 บาท)

iPad รุ่นมาตรฐานพร้อม Apple Pencil สามารถซื้อได้ในราคาต่ำกว่า $500 USD หรือประมาณ 15,000 บาท นี่เป็นแท็บเล็ตระดับเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมสำหรับศิลปินที่ต้องการอุปกรณ์ซึ่งไม่ได้ใช้สำหรับงานศิลปะเพียงอย่างเดียว ด้วยอัตราความคุ้มค่าต่อราคาที่สูงและ Apple Pencil ศิลปินจึงสามารถวาดและร่างภาพได้ทุกที่ และยังใช้ฟังก์ชันอื่นๆ ของแท็บเล็ตทั่วไปได้ และยังรองรับ Smart Keyboard ด้วย
รุ่นถูกที่สุดที่สามารถใช้เป็นแท็บเล็ตวาดภาพ iPad จะมีความจุพื้นที่จัดเก็บข้อมูลน้อยที่สุด แต่ถ้าใช้ซอฟต์แวร์วาดภาพ เช่น Clip Studio Paint ที่มีบริการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลบนระบบคลาวด์ ก็จะสามารถวาดรูปได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องพื้นที่จัดเก็บ นอกจากนี้ โปรดทราบว่าอาจมีความเสี่ยงที่ระบบปฏิบัติการจะไม่ได้รับการอัปเกรดในอนาคต
- ขนาดผลิตภัณฑ์: 248.6 x 179.5 x 7 มม.
- พื้นที่วาด: รุ่น 11 นิ้ว
- ค่าน้ำหนักมือแรงกดปากกา: ไม่ระบุ
- ราคา: เริ่มต้นที่ $349.00 USD (12,900 บาทในไทย) Apple Pencil (รุ่นที่ 1) $99.00 USD (3,990 บาทในไทย) (เมื่อเดือนเมษายน 2025)
Apple 13-นิ้ว iPad Pro (รุ่นที่ 7) + Apple Pencil Pro
Apple Pencil เวอร์ชันนี้ใช้ง่ายขึ้น และขนาดหน้าจอ iPad ก็ใหญ่ขึ้นด้วย!

iPad Pro เป็นรุ่นที่บางที่สุดของ Apple โดยบางประมาณ 5 มม. ทำให้มีขนาดพกพาสะดวกสำหรับใช้งานที่บ้านหรือร้านกาแฟ มีหน้าจอขนาดใหญ่ จึงให้พื้นที่วาดที่กว้าง คุณสมบัติของ iPad Pro เพียงพอสำหรับการใช้งานระดับมืออาชีพ และมีศิลปินมืออาชีพหลายคนใช้สร้างผลงานเฉพาะบน iPad Pro เท่านั้น
การใช้งาน iPad Pro ร่วมกันกับ Apple Pencil Pro ลื่นไหลมากขึ้น และง่ายกว่าที่ ปากกาสามารถติดเข้ากับ iPad Pro ด้วยแม่เหล็ก เพื่อจับคู่และชาร์จได้ในตัว แต่การปรับแต่งด้ามจับบางแบบอาจทำให้จับคู่หรือชาร์จลำบาก ด้วยเหตุนี้ ตอนนี้จึงมีปลอกจับบางรุ่นที่ไม่บังบริเวณที่เชื่อมต่อกับ iPad เราขอแนะนำให้ใช้ปลอกแบบนี้ถ้าต้องการปรับแต่งด้ามจับ Apple Pencil Pro รองรับฟังก์ชันใหม่ เช่น การหมุนปากกา การบีบ และการตอบสนองแบบสั่น
- ขนาดผลิตภัณฑ์: 215.5 x 281.6 x 5.1 มม.
- พื้นที่วาด: รุ่น 13 นิ้ว (ความละเอียด: 2732 x 2048)
- ค่าน้ำหนักมือแรงกดปากกา: ไม่ระบุ
- ราคา: iPad Pro (รุ่นที่ 7) $1299 USD (47,900 บาทในไทย) Apple Pencil Pro $129 USD (4,490 บาทในไทย) (เมื่อเดือนเมษายน 2025)
ข้อเสนอแนะสุดท้าย
โดยรวมแล้ว เราขอแนะนำแท็บเล็ตวาดภาพแบรนด์ Wacom เนื่องจากฟังก์ชันการทำงานที่ครบถ้วน ประวัติความน่าเชื่อถือ ความเสถียร และการบริการ
แม้ว่าราคาของแท็บเล็ตวาดภาพ Wacom จะสูงกว่าแท็บเล็ตของผู้ผลิตอื่นๆ หลายราย แต่ไส้ปากกาและอะไหล่สไตลัสมีจำหน่ายทั่วไปและหาซื้อได้สะดวก ลองใช้งานได้ที่ร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อดูว่าแบบไหนเหมาะกับตัวเอง คงยากที่จะไม่เลือกใช้แบรนด์ตัวท็อปและผู้นำตลาดแท็บเล็ตวาดภาพ!
แต่ถ้าไม่สนใจเรื่องราคา และต้องการความสะดวกสบายในการวาดภาพ เราขอแนะนำ Surface Pro หรือ iPad Pro
Surface Pro และ iPad Pro ก็มีให้ลองใช้งานได้ที่ร้านขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลายแห่ง แต่ผลิตภัณฑ์เหล่านี้อาจถูกจัดวางในโซนที่แตกต่างกัน เพราะสินค้า Apple กับ Windows มักจะแยกกัน ที่ร้านบางแห่ง ยังสามารถวาดด้วยซอฟต์แวร์ อย่าง Clip Studio Paint ได้ด้วย แท็บเล็ตเหล่านี้ไม่ใช่อุปกรณ์ที่พัฒนาขึ้นมาเฉพาะสำหรับวาดภาพเหมือนแท็บเล็ตวาดภาพโดยตรง ดังนั้นแม้ว่าอุปกรณ์นั้นจะใช้งานกับปากกาได้ บางร้านอาจจะไม่มีปากกาให้ทดลองใช้
โดยสรุป: ใช้เวลาในการค้นหาแท็บเล็ตที่เหมาะกับตนที่สุด
เมาส์ปากกาและจอวาดภาพ เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการสร้างงานวาดดิจิทัลบนคอมพิวเตอร์ กลยุทธ์ที่ดีที่สุดคือทดลองใช้แท็บเล็ตทั้งหมดที่สนใจในร้าน และดูว่าแบบไหนเหมาะกับสไตล์การวาดของตัวเองที่สุด ถ้าไม่เจอแท็บเล็ตที่ต้องการในพื้นที่ หรือสนใจแท็บเล็ตที่มีขายแค่ในออนไลน์ ให้ใช้รีวิวของเราข้างต้นเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจก่อนซื้อ
บทความโดย Art Rocket
สนใจในการออกแบบกราฟิก หรืออยากรู้เส้นทางการเป็นนักออกแบบกราฟิกไหม? ดูได้ที่ลิงก์ด้านล่าง!








